ชุดตรวจเอชไอวี (HIV) หรือที่มักเรียกว่าชุดตรวจเอดส์ เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างมากในด้านสาธารณสุข เนื่องจากช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจคัดกรองเบื้องต้นได้สะดวกมากขึ้น ชุดตรวจเอดส์โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงหรือประชาชนทั่วไปที่อาจยังไม่พร้อมจะไปพบแพทย์ การมีทางเลือกในการตรวจมากขึ้นทำให้โอกาสในการรู้สถานะการติดเชื้อเร็วขึ้น ชุดตรวจเอดส์ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวี
ปัจจุบันชุดตรวจเอชไอวีสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ ชุดตรวจแบบใช้น้ำลาย (oral fluid test) และชุดตรวจแบบเจาะเลือด (blood-based test) ทั้งสองแบบมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ชุดตรวจเอดส์ทั้งในด้านกระบวนการตรวจ ความแม่นยำ ความสะดวก และการตีความผลชุดตรวจเอดส์แบบใช้น้ำลาย เป็นนวัตกรรมที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อความสะดวกสบายและลดความรู้สึกกลัวของผู้ใช้ ด้วยวิธีการที่ไม่ต้องเจาะเลือด
การเลือกใช้ชุดตรวจแบบใดแบบหนึ่งควรพิจารณาจากหลายปัจจัย
ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ที่ซับซ้อน ผู้ใช้เพียงแค่ใช้แท่งตรวจป้ายที่เหงือกทั้งด้านบนและด้านล่างแล้วนำไปจุ่มในสารละลาย รอผลประมาณ 20-40 นาที ชุดตรวจเอดส์การตรวจแบบนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานด้วยตนเองที่บ้าน โดยไม่ต้องพึ่งพาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือเครื่องมือทางการแพทย์ขั้นสูง ชุดตรวจเอดส์ การตรวจแบบใช้น้ำลายยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากเลือดและไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด ทำให้ผู้ที่กลัวเข็มสามารถเข้าถึงการตรวจได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ชุดตรวจแบบนี้ไม่ได้ใช้น้ำลายโดยตรงแต่ใช้ของเหลวในช่องปากที่เรียกว่า oral mucosal transudate
ซึ่งมีแอนติบอดีของเอชไอวีอยู่ในระดับหนึ่ง แม้จะน้อยกว่าที่พบในเลือดก็ตาม ความแม่นยำของชุดตรวจแบบใช้น้ำลายจึงอาจน้อยกว่าชุดตรวจแบบเจาะเลือดในแง่ของความไว (sensitivity) และความจำเพาะ (specificity) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง “window period” ชุดตรวจเอดส์หรือระยะที่ร่างกายยังไม่สร้างแอนติบอดีต่อเชื้อเอชไอวีในระดับที่สามารถตรวจจับได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดผลลบลวง (false negative) ได้ในทางตรงกันข้าม ชุดตรวจเอดส์แบบเจาะเลือดยังคงเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในแง่ของความแม่นยำ โดยเฉพาะหากทำในห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐาน
ชุดตรวจทั้งสองประเภทจะมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการคัดกรอง
วิธีการนี้สามารถตรวจได้ทั้งจากเลือดปลายนิ้วหรือจากหลอดเลือดดำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของชุดตรวจเอดส์สำหรับชุดตรวจด้วยตนเอง ชุดตรวจเอดส์ด้วยตนเองใช้วิธีการเจาะเลือดปลายนิ้วเพื่อนำเลือดเพียงเล็กน้อยไปหยดบนแถบทดสอบ ซึ่งสามารถอ่านผลได้ภายใน 15-20 นาที การตรวจจากเลือดมักสามารถตรวจจับแอนติบอดีได้เร็วกว่า เนื่องจากเลือด

มีความเข้มข้นของแอนติบอดีสูงกว่าของเหลวในช่องปาก นอกจากนี้ ชุดตรวจบางประเภทที่ใช้เลือดยังสามารถตรวจจับแอนติเจน p24 ซึ่งเป็นโปรตีนจากไวรัสเอชไอวีได้ด้วย ทำให้สามารถตรวจพบการติดเชื้อได้ตั้งแต่ช่วงต้นของระยะ window period ซึ่งเป็นระยะที่ชุดตรวจแบบใช้น้ำลายอาจยังไม่สามารถให้ผลบวกได้ ความไวของการตรวจแบบเจาะเลือดจึงมักสูงกว่าการตรวจแบบใช้น้ำลายอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือนหลังจากมีความเสี่ยง